สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน สถานที่ที่มีการชุมนุมของผู้ที่นิยมสะสมพระเครื่อง ที่เราเรียกกันว่าศูนย์พระเครื่อง ชมรมพระเครื่อง หรือสนามพระนั้น มีความเป็นมาอย่างไร ถึงได้เป็นอย่างที่เห็นมาจนทุกวันนี้ เป็นศูนย์พระเครื่องติดแอร์ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ครับวันนี้เรามาเล่า เรียบเรียงความเป็นมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันกัน
สถานที่ชุมนุมของผู้นิยมสะสมพระเครื่องแรกเริ่มเดิมที ก็ถือกำเนิดมาจากร้านกาแฟตามในตลาด โดยส่วนมากมักจะเป็นผู้สูงอายุที่ตอนเช้าๆ ก็ออกมานั่งดื่มกาแฟ พบปะสังสรรค์กัน แล้วก็เอาพระเครื่องมาอวดกันบรรยายสรรพคุณกันไป คุยไปคุยมาเกิดถูกใจก็แลกเปลี่ยนหรือเช่าหากันไป เป็นอย่างนี้ทุกทีไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด อย่างในกรุงเทพฯ สนามพระแห่งแรกก็เริ่มมาจากร้านกาแฟเล็กๆ แถวศาลอาญา (ศาลเก่า สนามหลวง) เป็นที่ชุมนุมของบรรดานักเล่นหาสะสม จะเอาพระใส่กล่องบ้างห่อมาบ้างแล้วแต่สะดวก ที่มีระดับหน่อยก็จะใส่กล่องยาถ่ายบรุ๊กแล็กซ์เอาสำลีรองมาเป็นอย่างดี ในสมัยนั้นยังไม่มีกล่องใส่พระที่ทำมาโดยเฉพาะอย่างปัจจุบัน ที่รู้เนื่องจากคุณพ่อผมเองท่านก็นิยมสะสมพระเครื่องเช่นกัน ตอนนั้นผมยังเล็กๆ อยู่ก็ได้มีโอกาสติดตามคุณพ่อไปที่ร้านกาแฟมหาผันที่ศาลเป็นประจำทุกวันหยุด ร้านนี้มีคนมากมาย มาพบปะแลกเปลี่ยนกัน พูดคุยกันเป็นที่สนุกสนาน ร้านกาแฟมหาผันนี้จะเรียกกันในหมู่ผู้นิยม พระเครื่องว่า "บาร์มหาผัน"
ต่อมาเริ่มมีคนนำพระเครื่องพระบูชามาให้เช่ากันมากขึ้นจนคับแคบลงถนัดตา และเมื่อศาลต้องการบูรณะพื้นที่และสร้างศาลใหม่ ก็เป็นอันว่าต้องถูกอัปเปหิกันออกมาอยู่ข้างนอก มหาผันแกจึงไปเช่าที่สร้างร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ที่ตรอกสาเก ข้างๆ โรงแรมรอยัลเดิมนั่นแหละครับ บรรดาผู้นิยม พระเครื่องก็ติดตามกันออกมา ต่อมา อีกระยะหนึ่งก็มีบ้างที่มานั่งขายกันตาม โคนต้นมะขาม จนรกรุงรังกันไปหมด ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2500 ต้นๆ ทางการจึงให้จัดสถานที่ใหม่ให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยให้ย้ายกันไปอยู่ในวัดมหาธาตุฯ ก็เป็นสถานที่ชุมนุมกันใหม่ดูดีขึ้น และก็นับว่าเป็นสนามแห่งแรกที่เป็นกิจจะลักษณะ มีการแบ่งที่ทางเป็นล็อกๆ บรรดานักเล่นหาสะสมจึงแห่กันมาอยู่ในบริเวณวัดมหาธาตุฯ มาจากต่างจังหวัดบ้างก็มี บ้างมาปล่อยพระ บ้างมาเช่าหาแลกเปลี่ยน มาเดินดูบ้าง มาคุยโม้เล่าประวัติกันบ้าง คุยกันเป็นคุ้งเป็นแควสนุกสนานกันไปวันๆ ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จะมีคนมากหน่อย ผมเองก็ยังติดตามคุณพ่อไปบ่อยๆ ที่มีโอกาส แรกๆ ก็มีแผงพระไม่มากนัก ต่อมาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มแออัด
ในประมาณปี พ.ศ.2515-16 ต้นปี ทางวัดมหาธาตุฯ ต้องการใช้สถานที่บริเวณนั้น สนามพระก็มีอันต้องย้ายกันอีกที ตอนนี้ก็มีกลุ่มหนึ่งย้ายไปอยู่ที่บริเวณวัดราชนัดดา อีกกลุ่มหนึ่งย้ายไปเช่าตลาดเก่าท่าพระจันทร์ และอยู่มาจนทุกวันนี้ สนามท่าพระจันทร์ในสมัยนั้นถือเป็นที่ชุมนุมที่ใหญ่ที่สุด มีผู้ชำนาญการในด้านพระเครื่องพระบูชามากมาย ต่อมาในระยะหลังจากนั้นก็เริ่มมีศูนย์พระเครื่องติดแอร์โดยการนำของคุณพยัพ คำพันธุ์ ได้เริ่มชักชวนกันมาเปิดที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาประตูน้ำ และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนย้ายกันมาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขางามวงศ์วาน ชั้น 3 จนทุกวันนี้ และปัจจุบันถือว่าเป็นศูนย์พระเครื่องพระบูชาติดแอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ครับความเป็นมาของแหล่งชุมนุมของผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาหรือที่เรียกกันว่าสนามพระนั้น ก็มีความเป็นมาย่อๆ ตามที่ผมเล่ามานี่แหละครับ เอาไว้วันหน้าจะเล่าถึงการเล่นหาสะสม ซึ่งเป็นประสบการณ์ของตัวผมเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เริ่มสนใจศึกษาต่อไปครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น